เช็คให้ชัวร์..ติดรางน้ำฝนอย่างไร ไม่ผิดใจกับเพื่อนบ้าน

แม้ว่าการติดตั้งรางน้ำฝนจะมีประโยชน์ช่วยปกป้องบ้านจากน้ำที่ชะล้างสิ่งสกปรกจากหลังคา รวมถึงยังปกป้องพื้นดินสนามหญ้าของบ้านให้ไม่เสียหาย และอยู่กับเราได้อีกยาวนาน

แต่การติดรางน้ำฝนนั้นต้องเช็คให้ชัวร์ก่อนนะว่ารางน้ำฝนที่ติดตั้งไม่ยื่นเลยออกไปยังที่ดินของบ้านข้าง ๆ รวมถึงการปล่อยน้ำฝนจะต้องไม่ล้น ไม่กระเซ็นไปยังที่ดินของเพื่อนบ้าน

ข้อกฎหมายต้องรู้ที่เกี่ยวข้องกับการติดรางน้ำฝน

แม้จะไม่มีข้อกฎหมายที่บังคับชัดเจนว่าบ้านทุกหลังต้องติดรางน้ำฝน แต่ก็มีข้อกฎหมายที่เข้ามาเกี่ยวข้องเป็นไปตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 44 (พ.ศ.2538) ข้อ 2 ที่ระบุเอาไว้ว่า "อาคารที่ก่อสร้างหรือดัดแปลงต้องมีการระบายน้ำฝนออกจากอาคารที่เหมาะสม และเพียงพอไม่ให้เกิดความเดือนร้อนรำคาญแก่ผู้อื่น หรือเกิดน้ำไหลนองไปยังที่ดินอื่นที่มีเขตติดต่อกับเขตที่ดินเป็นที่ตั้งของอาคารนั้น"

นอกจากนี้ยังมีกฎหมายควบคุมอาคาร ข้อ 50 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) "กำหนดให้แนวผนังอาคารต้องร่นจากเขตที่ดินข้างเคียงไม่น้อยกว่า 0.50 เมตร และเป็นผนังทึบ"

ซึ่งโดยปกติแล้วการติดตั้งรางน้ำฝนกับตัวอาคารหลักของบ้านมักจะไม่มีปัญหาให้ต้องระวังเท่าไร แต่หากเป็นพื้นที่ต่อเติมหลังคา หรือต่อเติมอาคารใหม่ยื่นออกจากตัวบ้านหลัก (ซึ่งส่วนมากหลังจากต่อเติมจะล้ำเกินเข้ามาในระยะถอยร่น) เมื่อคำนวนระยะชายคา และรางน้ำฝนที่จะติดตั้งแล้ว ส่วนใหญ่จะมีระยะถอยร่นน้อยกว่าที่กฎหมายทำหนด หรือบางรายอาจล้ำขอบเขตที่ดินเพื่อนบ้าน!!

ดังนั้นก่อนติดตั้งรางน้ำฝน ควรปรึกษาช่างผู้ชำนาญเพื่อออกแบบการติดตั้งให้ไม่ล้ำขอบเขตที่ดินเพื่อนบ้าน

และที่สำคัญคือ...

ผูกมิตรกับเพื่อนบ้านเอาไว้ เพราะความสัมพันธ์ที่ดีก็ช่วยให้ปัญหาคลี่คลายลงได้โดยไม่จำเป็นต้องกระทบกระทั่งให้ผิดใจกัน

“เรน” รางน้ำฝนอลูมิเนียมไร้รอยต่อ Rain Gutter